องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงพระนามว่า “สมณโคดม” ได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณที่ใต้ต้นโพธิ์ริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา เมื่อทรงเสวยวิมุตติสุขแล้วพระพุทธองค์ก็ทรงออกประกาศศาสนธรรมแห่งพระอริยสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลายราชประเพณี แห่งศากยวงศ์พุทธภูมิพระพุทธเจ้าก็ได้ออกประกาศธรรม จนมีผู้เลื่อมใสในพระธรรมที่พระพุทธองค์ทรงแสดงโปรดสัตว์ ก็ได้พากันออกบวชประพฤติธรรมจนสำเร็จพระอรหันต์กันอย่างมากมายในสมัยนั้น ทั้งภิกษุ ภิกษุณี ฆราวาส ได้บรรลุธรรมชั้นโสดาปัตติผล สกิทาคามี อนาคามี มีมากมายแพร่ขจรไปทั่วดินแดนแห่งชมพูทวีป (ทวีปที่มีต้นหว้ามาก)
ครั้นหนึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดมของเรา ได้ท่องเที่ยวไปประกาศธรรมอันเป็นธรรมที่ได้มาจากการตรัสรู้ของพระพุทธองค์ ณ บริเวณป่าที่มีไม้ยืนต้นสูงใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่รายรอบไม่ห่างจากสถานที่ที่พระพุทธองค์ประทับเพื่อแสดงธรรมเท่าใดนัก มีหมู่บ้านพราหมณ์ผู้ประกอบสัมมาอาชีพ ดำรงชีพด้วยการปลูกพืชทำไร่ทำนา บางจำพวกประกอบอาชีพค้าขาย บางคนก็มีอาชีพรับราชการแผ่นดินมียศถาบรรดาศักดิ์ ก็ได้เดินทางพากันมาฟังธรรมอันตรัสรู้ของพระพุทธองค์ที่ทรงแสดงธรรม ในครั้งนั้นได้มีมานพหนุ่มผู้มีศีลอันบริสุทธิ์สร้างสมบุญบารมีน้อยใหญ่มาหลายภพหลายชาติ เคยบวชเป็นพระภิกษุในสมัยศาสนาของพระพุทธเจ้าพระองค์ก่อนหน้าพระพุทธเจ้าสมณโคดม ได้พาคณะบริวารร่วมกันพันคนเป็นมิตรที่ดีต่อกันมาหลายภพหลายชาติและได้เกิดมาเสวยชาติร่วมกันในสมัยพระพุทธเจ้าสมณโคดมอีกครั้งหนึ่ง ต่างก็ชักชวนกันมาเพราะมีความเลื่อมใสในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า พระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ พระพุทธเจ้าผู้เป็นบ่อกำเนิดประทีปธรรมทั้งหลาย คณะธรรมญาติของมานพหนุ่มผู้นี้ เมื่อมาถึงแสดงธรรมก็พากันมากราบมนัสการบูชาพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ พระองค์ผู้เป็นโลกนาถะ เป็นที่พึงอันประเสริฐของเหล่ามนุษย์ เทวดา พรหม สัตว์นรกภูมิ พระองค์ทรงเปล่งวาจาแสดงธรรมโปรดชาวเมือง ต่างพากันน้อมรับฟังธรรม มือทั้ง ๒ ข้างยกขึ้นพนมนิ้วทั้ง ๑๐ นิ้วชิดกัน ตั้งสง่าอยู่ระหว่างอก เพื่อรับฟังธรรมแห่งพระพุทธองค์จบพระธรรมเทศนาแห่งองค์พุทธะ
บางคนมีภูมิธรรมบารมี สะสมมาตั้งแต่ชาติก่อน เมื่อได้รับฟังธรรมจากพระพุทธองค์ก็ได้พิจารณาธรรมนั้นแล้วสำเร็จธรรมด้วยจิตพิจารณาบรรลุธรรมชั้นต่างๆ เป็นจำนวนมาก โสดาปัตติผล สกิทาคามี อนาคามี อรหันต์ก็มี ในครั้งนั้นต่างก็ได้รับฟังธรรมต่างๆ จากพระพุทธองค์ เห็นความอัศจรรย์ต่างๆ ของพระพุทธองค์ก็เกิดความเลื่อมใสสมาทาน พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ แม้นครั้งที่ ๑ ครั้งที่ ๒ และครั้งที่ ๓ ไปจนตลอดชีพ บุคคลในคณะของมานพหนุ่มบ้างก็มีการบำเพ็ญธรรมสะสมบารมี การบำเพ็ญเนกขัมบารมีมาแต่ภพชาติก่อน บ้างมีวาสนา มีธรรมสะสมแห่งการบำเพ็ญทานบารมี จึงได้พากันตั้งใจ หมั่นรักษาศีลบำเพ็ญบารมีธรรม ต่างก็มีความเลื่อมใสจึงได้พร้อมใจกันประพฤติปฏิบัติธรรมสร้างสมบารมีธรรมต่างๆ
ครั้นเมื่อโลกธรรมแห่งธรรมตรัสรู้ของพระพุทธองค์ คือมีความเจริญเกิดขึ้น ก็เสื่อมเป็นธรรมดา ศาสนาธรรมของพระพุทธองค์ในแดนชมพูทวีปก็เริ่มเสื่อมลง นับจากการเสด็จปรินิพพานของพุทธองค์ล่วงกาลนับประมาณหนึ่งพันปีล่วงมาก็ได้มีความเจริญศาสนาธรรมพุทธองค์ในแคว้นดินแดนสุวรรณภูมิ คณะธรรมญาติ สหธรรมิก บริวารของมานพหนุ่มผู้นั้น มีบารมีธรรม อินทรีย์แก่กล้าทั้งหลายต่างก็ได้เกิดเป็นมนุษย์ในดินแดนสุวรรณภูมิกันอย่างมากมาย โดยมีเสนาบดีมานพหนุ่มผู้นั้นเป็นหัวหน้า เมื่อได้ออกบวชบรรพชาเป็นสามเณรและพระภิกษุผู้ได้ปฏิบัติตามศาสนธรรมข้อวัตรปฏิบัติสมาทานธุดงค์แห่งองค์พระพุทธเจ้าด้วยบารมีธรรมอินทรีย์แก่กล้าออกปฏิบัติธรรมวิปัสสนากรรมฐานเห็นแจ้งชัดใน อริยสัจ ๔ ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
เมื่อคณะบริวารผู้ที่มีความคุ้นเคยกันมานับตั้งแต่อดีต บางคนก็เกิดมาในระยะที่มานพหนุ่มผู้นั้นได้เสวยชาติและได้ออกบวชปฏิบัติธรรมจนบรรลุธรรมอรหันต์ ณ ดินแดนสุวรรณภูมิ ต่างก็ได้ยินกิตติศัพท์ชื่อเสียงของพระภิกษุรูปนั้น จึงได้เดินทางไปฟังธรรม ขอรับอุบายธรรมจากพระภิกษุรูปนั้น แล้วนำมาทำความเพียรปฏิบัติภาวนาจิต จนบรรลุธรรมวิเศษสำเร็จธรรมต่างๆ ตามวาสนาบารมีของแต่ละองค์ พระภิกษุรูปนั้นได้อบรมสั่งสอนธรรมแก่บริวารของตนในอดีต บริวารของพระภิกษุรูปนั้นก็มีเพื่อนมิตร บริวารในแต่ละส่วนของตน จึงนำธรรมปฏิบัติต่างๆ จากพระภิกษุนั้นนำมาเผยแพร่ปฏิบัติ จนเป็นกองทัพธรรมพระกรรมฐานยุคปัจจุบัน ภิกษุผู้มีบารมีธรรมแก่กล้าบารมีอินทรีย์กล้าแกร่งผู้นั้นก็คือ ท่านหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ร่วมคณะอยู่กับ หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล ผู้เป็นแม่ทัพธรรมใหญ่ของพระสายกรรมฐาน
เมื่อพระเดชพระคุณพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ละสังขารธาตุลงในปีพ.ศ. ๒๔๙๒ ก็มีบริวารลูกศิษย์ของหลวงปู่มั่นได้ช่วยเหลือกันสืบทอดธรรมข้อปฏิบัติธุดงควัตรสืบสายธรรมต่อจากหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มีชื่อเสียงที่เราทราบกันดี อาทิ หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม, หลวงปู่ฝั้น อาจาโร, หลวงปู่ขาว อนาลโย, หลวงปู่แหวน สุจิณโณ, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่จวน กุลเชฏโฐ, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงปู่คำดี ปภาโส, หลวงปู่หล้า เขมปัตโต, หลวงปู่สิม พุทธาจาโร, หลวงปู่สิงห์ทอง, หลวงปู่มหาปิ่น ชลิโต, หลวงปู่วัน อุตตโม, หลวงปู่ชา สุภัทโท, หลวงปู่สาม อกิญจโณ, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล, หลวงปู่ผาง จิตตคุดโต, หลวงปู่ชอบ ฐานสโม ฯลฯ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ในสายพระกรรมฐานพระอาจารย์มั่นทั้งนั้น พระอริยเจ้าทั้งหลายที่ได้เอ่ยนามพอเป็นสังเขปนี่ได้ละสังขารดับธาตุขันธ์เข้าสู่แดนนิพพานกันแทบทั้งสิ้น ในยุคปัจจุบันศิษย์ที่เคยอบรมธรรมจากพระอาจารย์มั่นก็เหลือน้อยลดลงไปทุกที ศิษย์พระกรรมฐานที่เคยร่วมสำนักอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่มั่นและยังมีชีวิตอยู่พอให้เราได้กราบมนัสการบูชาพระคุณพระสงฆ์ พอที่เราทราบรู้จักชื่อเสียงอยู่ อาทิ หลวงตามหาบัว ญารสัมปันโน, หลวงปู่ศรี มหาวิโร, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ, หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย ฯลฯ
ภาพแห่งอดีตชาติของหลวงพ่อบุญทัน ปุญญทัตโต อีกเหตุการณ์หนึ่งพระอาจารย์บุญเดชท่านได้ทราบจากการภาวนาได้พบว่า ในสมัยพุทธกาลหลังจากที่มานพหนุ่มผู้นำพาบริวารไปฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า มานพหนุ่มผู้เป็นหัวหน้าคณะ ในครั้นนั้นก็คืออดีตชาติของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต คณะบริวารทั้งหลายก็คือ พระกรรมฐานในยุคปัจจุบัน ภายหลังมานพหนุ่มผู้ประกอบอาชีพทำไร่ทำเกษตรกรรมนำบริวารไปฟังธรรมจากพระพุทธเจ้า แล้วจึงเกิดความเลื่อมใส จึงพร้อมใจกันตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาพุทธภูมิ ปรารถนาเป็นพระพุทธเจ้า ท่านหลวงพ่อบุญทันเองท่านจึงได้ตั้งจิตอธิษฐานปรารถนาพุทธภูมิต่อหน้าพระพักตร์ของพระพุทธองค์ หลังจากนั้นจึงได้หมั่นสร้างกุศลผลบุญทานน้อยใหญ่ตลอดมา เพื่อเป็นการสั่งสมบารมีธรรมให้แก่กล้าจนกาลเวลาล่วงผ่านมาอีกหลายชาติ